
ในปัจจุบันการ สอบใบขับขี่ มีความยากขึ้นและใช้เวลามากขึ้นในการขอรับใบขับขี่ ในแต่ละครั้งวันนี้เราจะพาคุณมาเตรียมตัวที่จะไป ขอรับใบขับขี่รถยนสวนบุคคล กันเลยว่าเราต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง และเราต้องมีคุณสมบัติอย่างไรจึงจะสอบใบขับขี่ได้ ไปดูกันเลย
คุณสมบัติของผู้ขอรับใบขับขี่
- มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ แต่ถ้าเป็นผู้ขอใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว สำหรับรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดความจุกระบอกสูบรวมกันไม่เกิน 110 ลูกบาศก์เซนติเมตร ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์
- มีความรู้ความสามารถในการขับรถ
- มีความรู้ในข้อบังคับการเดินรถตามพระราชบัญญัติรถยนต์ และตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก
- ไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการจนเป็นที่เห็นได้ว่าไม่สามารถขับรถได้
- ไม่มีโรคประจำตัวที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่าอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ
- ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน
- ไม่มีใบขับขี่รถชนิดเดียวกันอยู่แล้ว
- ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกยึดหรือเพิกถอนใบขับขี่
หลักฐานประกอบคำขอ
- บัตรประชาชนฉบับจริงพร้อมสำเนากรณีชาวต่างชาติให้ยืนใบสำคัญบัตรประจำตัวคนต่างด้าว หรือหนังสือเดินทาง(PASSPORT) พร้อมสำเนากรณีชาวต่างชาติให้ยืนใบสำคัญถิ่นที่อยู่หรือใบอนุญาตการทำงาน (WORK PERMIT) ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
- ใบรับรองแพทย์ แสดงว่าผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน
ขั้นตอนการดำเนินการ
ต้องมีคิวอบรมก่อนดำเนินการอื่นๆ โดยสามารถจองคิวอบรมได้ 2 ช่องทาง คือ
จองคิวอบรมด้วยตนเองพร้อมหลักฐานประกอบคำขอ
จองคิวอบรมทางโทรศัพท์ผ่านหมายเลข 02-271-8888 ต่อ 4201-4 หรือโทร 1584
สำหรับ ผู้ที่จองคิวทางโทรศัพท์ ต้องมาลงทะเบียนในวันที่นัดอบรมก่อนเวลา 08.00 เพื่อทำการทดสอบสมรรถภาพร่างกายก่อนเข้ารับการอบรม จากนั้น จึงดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
1. ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอ
2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ
ทดสอบสายตาทางลึก
ทดสอบสายตาทางกว้าง
ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (ความสามารถในการใช้เบรคเท้า)
3. อบรม (ไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง)
4. ทดสอบข้อเขียนผ่านระบบ Electronic Examination (E-exam)
5. ทดสอบขับรถ
ก. การทดสอบขับรถยนต์ให้ใช้ท่าทดสอบ ดังนี้
ท่าที่ 1 การขับรถเดินหน้าและหยุดระเทียบทางเท้า
ท่าที่ 2 การขับรถเดินหน้าและถอยหลังในทางตรง
ท่าที่ 3 การขับรถถอยหลังเข้าจอดและออกจากช่องว่างด้านซ้าย
ท่าที่ 4 การหยุดรถและออกรถบนทางลาด
ท่าที่ 5 การกลับรถ
ท่าที่ 6 การขับรถเดินห้าเข้าจอดในช่องที่เป็นมุมฉาก
ท่าที่ 7 การขับรถโดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
ข. การทดสอบขับรถจักรบานยนต์ให้ใช้ท่าทดสอบ ดังนี้
ท่าที่ 1 การขับรถโดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
ท่าที่ 2 การขับรถทางตัวบนทางแคบ
ท่าที่ 3 การขับรถผ่านทางโค้งรัศมีแคบรูปตัวแซด
ท่าที่ 4 การขับรถผ่านทางโค้งซ้ายและโค้งขวารูปตัวเอส
ท่าที่ 5 การขับรถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง
6. ชำระค่าธรรมเนียม / ถ่ายรูปพิมพ์ใบอนุญาต / จ่ายใบขับขี่
เป็นไงกันบ้าง การสอบใบขับขี่ไม่ยากอย่างที่ทุกคนคิดเลยใช่ไมละ ถึงการสอบใบขับขี่จะเสียเวลาไปสักหน่อย แต่ทุกคนควรที่จะมีใบขับขี่ เพื่อทำให้ถูกกฏหมาย และ ตามหลักจราจรกันด้วยนะค่ะ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
กรมขนส่งทางบก : dlt.go.th